0
0
น.ส.ปานหทัย บูรณประเสริฐกุล หญิงผู้เสียหาย เล่าว่าวันที่ 9 มีนาคม ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. เธอกำลังจะกลับบ้าน ใช้เส้นทางจากถนนนางลิ้นจี่มุ่งหน้าพระราม 3 เพื่อขึ้นทางด่วนไปลงห้วยขวาง แต่พอขับรถผ่านด่านเก็บเงินมาไม่ถึง 100 เมตร ตัวเองเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่บริเวณไหล่ทางบนทางด่วน จังหวะนั้นมีรถยนต์อีกคันนึงเบี่ยงซ้ายปาดหน้ารถของเธอ ทำให้เธอต้องชะลอจอดแล้วเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
ปรากฏว่าผู้ชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาที่รถ พยายามเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสาร พอเปิดประตูรถไม่ได้ก็ทุบกระจกหลายครั้ง พร้อมพูดว่าขอติดรถไปลงข้างหน้าหน่อย ซึ่งขณะนั้นเธอตกใจจนพูดไม่ออก พอตั้งสติได้จึงค่อยๆ ขับรถออกไป พอชายคนนั้นเห็นว่าไม่ยอมรับขึ้นรถแน่ๆ ก็ยิ่งโมโหแล้วใช้หมวกกันน็อกฟาดเข้าที่รถของเธอ
หลังจากนั้นพอขับรถออกจากบริเวณจุดเกิดเหตุได้ก็เห็นป้ายทางด่วน เขียนว่ารับแจ้งเหตุฉุกเฉิน โทร 1543 เธอจึงรีบโทรไปแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจัดการผู้ชายคนดังกล่าว หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ปรึกษาญาติของตัวเองที่เป็นตำรว โดยทางญาติบอกว่าเหตุลักษณะนี้ถือเป็นคดีอาญาต้องแจ้งความ สน. พื้นที่ช่วง 16.00 น. เธอจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ พร้อมโทรศัพท์ไปติดตามความคืบหน้าทางฝั่งเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ บอกว่าหลังเกิดเหตุตำรวจไม่พบชายอยู่ที่จุดเกิดเหตุแล้วโดยได้ข้อมูลว่าโบกรถคันอื่นไปแล้ว
ส่วนตัวผู้เสียหาย มองว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะมีปัญหาอะไรมาก่อน จนทำให้เกิดอารมณ์โมโหฉุนเฉียว แต่ไม่ถึงกับเป็นขบวนการมิจฉาชีพแบบที่ในสื่อโซเชียลตั้งข้อสงสัยกัน พร้อมฝากเตือนภัยคนขับรถให้เช็คล็อกประตูทุกครั้งเพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเช็คกล้องหน้ารถว่าใช้งานได้หรือไม่เพราะมองว่าหากตัวเองไม่มีกล้องหน้ารถก็คงแจ้งความดำเนินคดีไม่ได้
ขณะที่ ทีมข่าวได้ข้อมูลจาก พ.ต.ท.บงกช แก้วสุวรรณ ร้อยเวรเจ้าของคดี เผยความคืบหน้าคดี ว่า ตอนนี้ทางตำรวจชุดสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้มีการลงพื้นที่ไล่กล้องภาพวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุว่าเป็นใคร ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าที่ตำรวจ สน.ทางด่วน 1 ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุทางชายคนดังกล่าวได้มีการโบกรถแท็กซี่จากทางด่วน เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวแท็กซี่คันที่รับผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ให้ข้อมูลว่าได้รับชายคนดังกล่าวไปที่ซอยรามคำแหง 81
ในส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดชายผู้ก่อเหตุสามารถเข้าไปในเขตพื้นที่บริเวณทางด่วนได้อย่างไรนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด
พ.ต.ท.บงกช เผยว่า เบื้องต้นทางผู้เสียหายไม่ได้มีการติดใจเอาความแต่อย่างใด แต่ยังคงมีความหวาดกลัว และกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งในทางคดี เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ข้อหาคือ ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาข่มขู่ให้ตกใจกลัว ซึ่งความผิดในส่วนนี้สามารถพูดคุยกันได้ ถ้าผู้เสียหายยอมความไกล่เกลี่ย
ในส่วนที่มีการตั้งสงสัยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นขบวนการของมิจฉาชีพหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า ไม่น่าจะถึงขึ้นนั้น แต่หลังจากนี้ก็ต้องตรวจสอบประเด็นนี้ด้วย
เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
สรุปผล Oscar 2024 “คิลเลียน เมอร์ฟี – เอมมา สโตน” ซิวนักแสดงนำ หนัง “Oppenheimer” กวาด 7 รางวัล
บัตรสวัสดิการฯ เตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่ม เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.คคำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่.
About The Author
